ครีมหน้าเด้ง 10 อันดับครีมทาแล้วหน้าเด็ก ลดเลือนริ้วรอย
สิ่งเดียวที่สาวๆกังวลมากที่สุดคือความแก่ เหี่ยวย่น หรือริ้วรอยต่างๆบนใบหน้า โดยเฉพาะสาวๆที่มีอายุเข้าสู่วัยเลข 3 แต่ในเมื่อเกิดเป็นผู้หญิงทั้งทีก็ต้องอย่าหยุดสวย อย่าให้อายุมาเป็นอุปสรรคที่จะทำให้คุณดูหน้าเด็กตลอดเวลา วันนี้เราเลยจะมาแนะนำ 10 อันดับ ครีมหน้าเด้ง ทาแล้วหน้าเด็ก พร้อมเคล็ดการดูแลผิวให้ห่างไกลจากริ้วรอย
อันดับแรกที่สาวๆในวัยนี้ทำได้คือการทาครีมบำรุงผิวหน้า เพื่อช่วยชะลอริ้วรอยและความเหี่ยวย่นนั่นเอง แต่ก่อนอื่นต้องยอมรับเสียก่อนว่าครีมหน้าเด้งในปัจจุบันมีมากมายหลายยี่ห้อเสียเหลือเกิน แล้วสาวๆจะรู้ได้อย่างไรว่าครีมหน้าเด้งตัวไหนที่จะเหมาะกับตัวเองมากที่สุด!!!
1. Smooth E Gold Cream
เป็น ครีม อีกตัวหนึ่งที่ถูกจัดว่าเป็นครีมขั้นเทพที่จะช่วยลดเลือนริ้วรอยและจุดหมองคล้ำต่างๆก่อนวัย นอกจากนั้นยังมีส่วนช่วยยกกระชับใบหน้าให้เต่งตึงขึ้น
ครีมตัวนี้สาวๆที่เคยทดลองใช้หลายคนต่างยกนิ้วให้ว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะเมื่อนำมาใช้แค่ไม่กี่อาทิตย์ก็เห็นผลชัดเจน ส่วนราคาอยู่ที่ประมาณ 140-600 บาท ขึ้นอยู่กับปริมาณด้วย
2. L’Oreal Revitalift Filler (HA)
ครีมบำรุงผิวตัวนี้เป็นสูตรเข้มข้นที่จะช่วยยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อย มีริ้วรอย และยังช่วยฟื้นฟูบริเวณร่องแก้มที่เริ่มฝ่อตัวลงจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นให้ดูตื้นขึ้นได้
ไม่เพียงเท่านั้นยังทำให้ผิวดูชุ่มชื้น แลดูอ่อนเยาว์เหมือนกับไป 20 ต้นๆอีกครั้ง สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท
3. Olay Regenerist Micro- Sculpting Cream
อีกหนึ่งครีมหน้าเด้งที่ไม่ว่าสาวน้อย สาวใหญ่ต่างมองหา ซึ่งครีมตัวนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากไม่แพ้ครีมตัวอื่นๆเลยทีเดียว ด้วยเพราะเนื้อครีมเมื่อนำมาทาแล้วจะไม่เหนียวเหนอะนะจนเกินไปแถมยังซึมเข้าสู่ผิวได้ดี
หากใช้สม่ำเสมอจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ว่าผิวหน้าดูเต่งตึง รูขุมขนเล็กลง และริ้วรอยต่างๆดูลลลงอีกด้วย สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท
4. Eucerin Hyaluron-Filler 3D Filler Day Rich Cream
ครีมตัวนี้ตอบโจทย์ให้กับสาวที่มีผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง หรือผิวแห้ง เป็นอย่างมาก ซึ่งผลลัพธ์หลังจากได้ใช้ครีมก็คือริ้วรอยต่างๆบนใบหน้าดูตื้นขึ้น ช่วยยกกระชับใบหน้าให้เด้งเรียบเนียน เหมาะที่จะใช้ทาในช่วงกลางวัน
เพราะมีตัวช่วยป้องกันแสงแดดได้อีกต่างหาก สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท
5. Lancome Renergie Multi-Lift Day Cream
ถ้าจะให้สาวๆการันตีว่าครีมตัวไหนช่วยยกกระชับผิวหน้าที่เกิดปัญหาหย่อนคล้อยให้ดูกระชับขึ้น มั่นใจเลยว่าครีม Lancome ตัวนี้ต้องติดอันดับแน่ๆ เพราะเนื้อครีมจะซึมได้ค่อนข้างเร็วแถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ
หากใช้เป็นประจำจะสัมผัสได้ว่าหน้ากระชับขึ้น ผิวเรียบเนียน และริ้วรอยต่างๆดูจางลง ที่สำคัญยังเหมาะกับทุกสภาพผิวเลยล่ะ สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 4,200 บาท
6. Pond’s Age Miracle Cell Regen Day Cream
บอกเลยว่าครีมหน้าเด้งตัวนี้ไม่ว่าจะเป็นร่องรอยตีนกา รอยเหี่ยวย่นต่างๆสามารถจัดการได้อยู่หมัด ซึ่งเหมาะสำหรับใช้ทาในช่วงกลางวัน เพราะมีตัวกันแดดพร้อมอยู่ด้วย อีกทั้งคนที่มีผิวมัน ผิวผสมก็สามารถใช้ได้ ราคาก็กำลังสบายกระเป๋าคืออยู่ที่ประมาณ 450 บาทเท่านั้นเอง
7. Skinfood Gold Caviar Collagen Cream
แบรนด์ชื่อกังจากเกาหลีที่นำคอลลาเจนเข้มข้นมาผสมในเเนื้อครีม ฉะนั้นใครที่ต้องการผิวเรียบเนียน เต่งตึง ปราศจากริ้วรอยก่อนวัย ครีมตัวนี้จะเป็นตัวช่วยที่ดี
เหมาะกับสาวที่มีผิวธรรมดาไปจนถึงกระทั่งสาวผิวแห้ง เพราะเมื่อทาเข้าไปแล้วผิวหน้าจะชุ่มชื้นขึ้นมาก ราคาอยู่ประมาณ 1,390 บาท
8. SK-ll R.N.A. Power Radical New Age Cream
สำหรับครีมตัวนี้มีดีที่ช่วยยกกระชับผิวหน้าและยังช่วยบำรุงริ้วรอยบนใบหน้าที่ฝังลึกให้ดูตื้นขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นรูขุมขนจะกระชับ หน้ากระจ่างใสเป็นธรรมชาติ และจุดด่างดำต่างๆก็ดูจางลง
นับได้ว่าเป็นครีมที่จะทำให้คุณกลับไปหน้าใสเข้าสู่วัยเด็กอีกครั้ง แต่ราคาก็แรงเอาการอยู่เลยทีเดียว ประมาณ 5,900-6,500 บาท
9. Estee Lauder Revitalizing Supreme Global Anti-Ageing Cream
เป็นครีมที่ช่วยต่อกรกับตัวเลขของอายุที่เพิ่มมากขึ้นในทุกปีของสาวๆ เมื่อใช้บ่อยๆเป็นประจำจะให้ความรู้สึกว่าผิวนุ่ม ชุ่มชื้น กระชับ และช่วยปกป้องริ้วรอยก่อนวัยได้ดี
เมื่อทาครีมแล้วจะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ แต่เนื้อครีมอาจจะค่อนข้างหนานิดหน่อย เหมาะกับสาวผิวธรรมดาหรือผิวผสม ราคาจะอยู่ที่ 3,600 บาท
10. Garnier Ageless White Anti-Aging+Whitening Miracle Cream
ครีมตัวนี้ไม่เพียงลดริ้วรอยเท่านั้น ยังช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส และปกป้องรอยหมองคล้ำจากแสงแดด เรียกได้ว่าพกแค่หลอดเดียวเอาอยู่สำหรับทุกปัญหาของผิวหน้าสาววัย 30+ ที่ต้องผจญกับริ้วรอย จุดด่างดำ ผิวหน้าหย่อนคล้อย ที่สำคัญยังสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว
สามารถทาได้เป็นประจำทุกวัน ซึ่งจะช่วยให้ใบหน้าของสาวๆดูอ่อนเยาว์ขึ้น แถมยังราคาสบายๆกระเป๋าอีกด้วยเพียงแค่ 380 บาทเท่านั้นเอง
8 สาเหตุการเกิดริ้วรอย ริ้วรอยก่อนวัย Pantip
ริ้วรอยก่อนวัยบนใบหน้า ไม่ว่าจะริ้วรอยใต้ตา รอยร่องแก้ม เกิดจากการที่เราขยี้แรงๆ รวมไปถึงการนอนหลับพักผ่อนและการกินอาหาร เป็นต้น เรามาดู 8 สิ่งที่ควรเลี่ยง หากสาวๆ ไม่อยากมีริ้วรอยใบใบหน้าสวยๆ ของเรากันนะค่ะ ว่าควรทำอย่างไรดี ไม่ให้มีริ้วรอยแก่ก่อนวัย ตั้งแต่วัยรุ่นค่ะ
1. สูบบุหรี่
ริ้วรอยก่อนวัย Pantip อันดับที่ 1 คือการสูบบุหรี่จะเร่งให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้นโดยลดการหมุนเวียนเลือดไปยังผิวหนังน้อยลง — ลดไขมันหน้าท้อง Pantip
2. ถูกแดด
ริ้วรอยก่อนวัย ผิวสีอ่อนมีโอกาสถูกแสงแดดทำร้ายได้ง่าย ซึ่งไปกระตุ้นให้เกิดริ้วรอย ดังนั้นสาวๆลองใช้ครีมกันแดด ทาครีมบำรุงผิว พกร่ม กางร่ม เพื่อไม่ให้ถูกแสงแดดทำลายผิวพรรณสวยๆของเราด้วยนะค่ะ
3. พันธุกรรม
ริ้วรอย ปัจจัยทางพันธุกรรมมีผลต่อการเกิดริ้วรอยแตกต่างกันแต่ละบุคคล เราอาจจะข้ามพันธุกรรมไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะดูแลสุขภาพให้ออกมาดีที่สุดได้นะค่ะ
4. ทรงผม
สาเหตุการเกิดริ้วรอย ทรงผมบางทรงจะยิ่งทำให้ดูแก่เหมือนมีริ้วรอยบนใบหน้า ตัดสั้นๆ เข้าไว้ค่ะ จะได้เหมือนเด็กมัธยม พร้อมบำรุงผมให้สุขภาพดีด้วยนะค่ะ ผมสวย หน้าเด็ก ยังไงก็ไม่แก่ค่ะ
5. แสงยูวี
การเกิดริ้วรอย การสัมผัสกับแสงยูวี เมื่อโดนแสงแดดนานมากขึ้นเท่าไหร่ โอกาสที่จะเกิดริ้วรอยยิ่งมีมากขึ้น ดังนั่นสาวๆ ควรหลีกเลี่ยง หรือทาครีมกันแดดป้องกันไว้ด้วยนะค่ะ
6. ขาดสารอาหาร
รอยบนใบหน้า ภาวะทุโภชนาการ การขาดสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายและผิวหนังเป็นสาเหตุของผิวเสื่อมสภาพ สาวๆควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย เช่นผัก ผลไม้ ที่อุดมไปด้วยวิตามินกันด้วยนะค่ะ
7. ท่านอน
มีริ้วรอยก่อนวัย ท่านอนในเวลาหลับ เป็นตัวเร่งให้เกิดริ้วรอยได้เนื่องมาจากกดทับบนผิวหน้าอยู่เป็นประจำ ซึ่งสาวๆควรนอนให้ถูกวิธี นอนไม่ให้ตื่นมาแล้วหน้ายับกันด้วยนะค่ะ
8. รับประทานน้ำตาลมากเกินไป
รักษาริ้วรอย หากรับประทานน้ำตาลมากเกินไป น้ำตาลสร้างความเสียหายให้กับโปรตีน และไฟเบอร์ในชั้นผิวซึ่งช่วยทำให้ผิวยืดหยุ่นและแข็งแรง โดยทำให้เกิดผิวหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอย
1.กรดไฮยารูรอนิก วิธีดูแลผิว
กรดไฮยารูรอนิก เป็นกรดที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้มากเป็นพันเท่า ช่วยในการดึงเอาความชุ่มชื้นในอากาศมาเติมเต็มริ้วรอยในผิว
ด้วยเหตุนี้กรดไฮยารูรอนิก จึงเป็นส่วนผสมที่พบได้ในผลิตภัณฑ์มากมายตั้งแต่ เซรั่ม มาส์ก และอาหารเสริมชนิดแคปซูลเจล และเป็นวัตถุดิบที่สำคัญอย่างยิ่งในการย้อนเวลาให้กับผิว
2.คอลลาเจน
คอลลาเจนดูแลผิว เป็นส่วนผสมที่มีประโยชน์ในหลายบทบาทหน้าที่ ประเทศญี่ปุ่นและประเทศแถบยุโรปได้นำเอาคอลลาเจนไปใช้ประโยชน์เป็นวลานานแล้ว
แต่เพิ่งจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในอเมริกา ในด้านอาหารเสริมเพื่อความงามจากภายในสู่ภายนอก และครีมที่ทาเฉพาะที่
เวลาเลือกซื้อคอลลาเจน ให้ดูคอลลาเจนชนิด 1 และ 3 ซึ่งช่วยทำให้ผม ผิว เล็บและเส้นเอ็นแข็งแรงสุขภาพดีและทำให้เนื้อเยื่อมีความกระชับยืดหยุ่น แม้ว่าส่วนประกอบโดยทั่วไปของคอลลาเจนมาจากปลาหรือวัว เมื่อไม่นานมานี้มีการค้นพบคอลลาเจนจากพืชที่มาจากต้นยาสูบด้วย
3.สเต็มเซลล์จากพืช
ดูแลผิว Pantip หนึ่งในการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ในตลาดผลิตภัณฑ์ชะลอวัย คือสารสกัดจากเสต็มเซลล์จากธรรมชาติที่มาจากแอปเปิ้ล ช่วยฟื้นฟูผิวให้ซ่อมแซมตัวเอง ทำให้ช่วยลบเลือนริ้วรอยและเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิวพรรณ
4.ซี บัคธอร์น ออยล์
วิธีดูแลผิว ซี บัคธอร์น มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเอเชียและยุโรป ประกอบไปด้วยสารต่อต้านการอักเสบ อันประกอบด้วย เบต้าแคโรธีน วิตามินซี วิตามินอี และไขมันที่เป็นประโยชน์
รวมไปถึงกรดไขมันหายากอย่างเช่น โอเมก้า 7 ซี ในอดีตบัคธอร์นเคยเป็นสารสกัดที่ใช้ฟื้นฟูผิวเฉพาะที่มาก่อนและถูกนำกลับมาใช้กับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสมัยใหม่ ในการเพิ่มความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่น และเพิ่มความหนาให้กับผิว ซึ่งอาจช่วยเพิ่มการสร้างคอลลาเจน ซึ่งแก้ปัญหาขั้นแรกของผิวมีอายุ
5.สารสกัดที่พบในองุ่นแดง (Resveratrol)
วิธี ดูแลผิว Pantip สารสกัดชนิดนี้พบได้ในผิวองุ่นแดง ถั่วเปลือกแข็ง และช็อกโกแลต เมื่อทาลงไปในบริเวณทีต้องการ สารสกัดชนิดนี้จะช่วยต่อต้านการเกิดสัญญาณความเสื่อมของผิว
รวมไปถึงริ้วรอย ผิวเสื่อมสภาพ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ผลการศึกษาเสนอแนะว่าสารสกัดนี้อาจช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวให้กลับคืนสู่สภาพดังเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากแสงยูวี และการป้องกันที่สุดคือทั้งการทาเฉพาะที่และการทานเข้าไป
6.น้ำมันอาร์แกน
วิธีดูแล ผิว Pantip น้ำมันอาร์แกน ทำมาจากเปลือกของต้นไม้ในตระกูลโมรอคกัน น้ำมันที่ได้จากต้นไม้ชนิดนี้มีวิตามินอี มากกว่าที่พบในน้ำมันมะกอดถึงสองเท่า
มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับสารต่อต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่นๆ วิตามินอี ช่วยชะลอความเสียหายอันเนื่องมาจากอนุมูลอิสระ คุณประโยชน์ด้านนั้นคือ น้ำมันอาร์แกน อุดมไปด้วย สารสกัดสควาเลนซึ่งเป็นสารประกอบที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมา
7.สาหร่ายสีแดง
วิธีการดูแลผิว Pantip สาหร่ายสีแดงแกมม่วงสามารถพิสูจน์ได้แล้วว่าช่วยชะลอการสร้างเม็ดสีเมลานินในผิวทำให้มีการสร้างเม็ดสีมากกว่าปกติ
สาหร่ายชนิดนี้มีน้ำตาลตามธรรมชาติที่ช่วยควบคุมการเกิดเม็ดสีผิว มีคุณสมบัติพิเศษในการทำให้ผิวสว่างมากขึ้น
8.สารสกัดจากสาหร่ายเพื่อช่วยเสริมสร้างฮอร์โมนฟื้นฟูผิว
วิธี การดูแลผิว สารประกอบเชิงซ้อนที่พบในสาหร่าย มีคุณสมบัติช่วยกำจัดพิษจากเซลล์ในร่างกายด้วยประสิทธภาพที่มาจากองค์ประกอบในนิวเคลียสของสาหร่าย
วิธีดูแลผิวแต่ละวัย เพื่อต่อต้านริ้วรอยตามช่วงอายุ
วิธีดูแลผิวแต่ละวัย ให้ทากันแดดอย่างเคร่งครัดเป็นประจำสม่ำเสมอ เพราะมันคือหน้าที่ การทากันแดดเป็นขั้นตอนแรกของการป้องกันริ้วรอย จุดด่างดำและสัญญาณริ้วรอยแห่งวัย ไม่มีอะไรดีกว่านี้ที่คุณจะทำให้กับผิวได้ ดร. แลมป์กล่าว
สำหรับผิวทุกช่วงวัย
สำหรับผิวทุกช่วงวัย ลงทุนกับผลิตภัณฑ์ บำรุงผิวของคุณ จ่ายแพงกว่าไม่กี่ดบาทแต่คุ้มค่ามาก ในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ดูดีมีคุณภาพมากกว่า นั่นเท่ากับว่าเราได้ใส่ใจกับการดูแลผิวหนังที่เป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย และป้องกันริ้วรอยในระยะยาว
เคล็ดลับในการประหยัดคือ ใช้เงินกับมอยเจอไรเซอร์มากกว่าผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว เพราะสุดท้ายแล้วเราก็ใช้น้ำล้างคลีนเซอร์ทิ้งไปอยู่ดี
ออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอ วิธีง่ายๆ ที่ช่วยดูแลผิวได้เป็นอย่างดี
ออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอ อุปนิสัยที่ช่วยให้มีสุขภาพดี ทำให้การหมุนเวียนเลือดดี และระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้เป็นปกติ และจะสะท้อนให้ปรากฎที่ผิวพรรณแลดูกระจ่างใส ปัจจัยด้านพันธุกรรม อีกหนึ่งปัจจัยที่เราต้องตระหนักคือ
เราไม่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ ดร.แลมป์กล่าวว่า พันธุกรรมมีบาทบาทสำคัญในเรื่องการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้ถึง 50/50 ดังนั้นเราจึงดูแลผิวเท่าที่เราทำได้และยอมรับปัจจัยทางพันธุกรรมของเราเอง
ช่วงอายุ 20-25
วิธีดูแลผิวช่วงอายุ 20-25 เน้นเรื่อง การเติมน้ำสู่ผิว ดื่มน้ำให้เพียงพอ เมื่อเราอายุเพิ่มมากขึ้น ผิวจะกักเก็บความชุ่มชื้นได้น้อยลง นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมผิวของทารกจึงเนียนเรียบ
ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ มอยเจอร์ไรเซอร์ช่วยเรื่องการเติมน้ำสู่ผิวและเก็บความชุ่มชื้นไว้โดยเฉพาะ ทามอยเจอร์ไรเซอร์ที่ผิวหน้าทันทีหลังจากอาบน้ำเสร็จ เพื่อกักเก็บน้ำจากการล้างหน้าไม่ให้ระเหยออกไป
เลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีสูตรอ่อนโยน คุณไม่ต้องต่อสู้กับปัญหาผิวของวัยรุ่นอีกต่อไป ดังนั้นเลือกส่วนผสมสูตรอ่อนโยนต่อผิวมากขึ้นเพื่อเลี่ยงการดึงเอาน้ำมันจากผิว เพราะน้ำมันในผิวต้องอยุ่ในภาวะสมดุลและชุ่มชื้น
ช่วงอายุ 25-35
วิธีดูแลผิวช่วงอายุ 25-35 เน้นเรื่อง การป้องกัน เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล เรตินอล และเรติน-เอ เป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอ คอมเพล็กซ์ และเป็นเครื่องมือในการต่อต้านสิวและริ้วรอยชั้นยอด ถ้าหากว่าคุณเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเรตินเอเพื่อแก้ปัญหาสิวอยู่แล้ว ให้ลองใช้สูตรที่มีส่วนผสมของเรตินเอในเปอร์เซ็นต์ที่น้อยลง จะช่วยลดความกังวลเรื่องผลข้างเคียง
สครับผิวอย่างอ่อนโยนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิว และทำให้ผิวดูดซึมสารอาหารผิวหรือเวชสำอางค์ได้เร็วขึ้น เน้นในเรื่อง ต้านการอักเสบ
เมื่อเลือกซื้อมอยเจอไรเซอร์ และโทนเนอร์ ให้ดูส่วนประกอบของ วิตามินเอ วิตามินซี และสารทำให้ผิวสว่างสดใส เพื่อทำให้รูขุมขนเล็กลง ลดรอยแดง และรักษาสมดุลโทนสีผิว
สร้างสูตรการบำรุงผิวของตัวเอง เมื่อคุณมีอายุมากขึ้น คุณยิ่งจำเป็นต้องมีมืออาชีพคอยให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง และ ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม เพื่อให้คำแนะนำเรื่องการดูแลผิวที่เหมาะแก่คุณโดยเฉพาะ
ใช้มอยเจอไรเซอร์อย่างต่อเนื่อง เมื่อคุณอายุมากขึ้น ให้เลือกมอยเจอไรเซอร์เข้มข้นมากขึ้น ซึ่งได้แก่ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะที่มีส่วนผสมหลักเป็นครีม มากกว่าที่เป็นโลชั่น เน้นที่มีส่วนผสมเพื่อช่วยในการปกป้องผิวให้มากขึ้น
ช่วงอายุ 35-45
วิธีดูแลผิวช่วงอายุ 35-45 เน้นเรื่องต่อต้านให้มองหามอยเจอไรเซอร์ ครีมหน้าเด้ง ที่มีส่วนผสมของวิตามินเอและซีที่เข้มข้นขึ้นไปอีก คุณสามารถเริ่มต่อสู้กับการสร้างเม็ดสีบนผิวหน้าได้เลย
พิจารณาเรื่องการเติมฟิลเลอร์ หากลังเล คิดที่จะใช้สารพวกโบท็อกซ์ เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะลองดู ก่อนดีกว่าทีหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สารเติมเต็มพวกฟิลเลอร์จะไปดูดซับน้ำ ( และคุณก็รู้แล้วว่าผิวที่อ่อนเยาว์กว่า เก็กความชุ่มชื้นได้มากกว่า )
พิจารณาเรื่องการใช้เลเซอร์ความเข้มแสงไม่รุนแรง ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่จะแก้ปัญหาริ้วรอยที่ไม่เคยมีมาก่อน ดีกว่าปล่อยทิ้งไว้อีกเพียงไม่นานแล้วค้นพบว่าจะต้องได้กลวิธีแก้ไขที่รุนแรงมากขึ้น (ลองปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง สำหรับชนิดของเลเซอร์ที่ความรุนแรงไม่สูงมากว่ามีอะไรบ้าง)
ช่วงอายุ 45 ขึ้นไป
วิธีดูแลผิวช่วงอายุ 45 ขึ้นไป เน้นไปที่การซ่อมแซม รักษาแนวทางการบำรุงผิวต่อไป จำไว้ว่าเมื่ออายุมากขึ้น คุณจำเป็นต้องดำเนินกิจวัตรในการบำรุงดูแลผิว ไม่ใช่การแทนที่ และคอยมองหาผลิตภัณฑ์ที่อุดมไปด้วยสารอาหารผิว และสารต่อต้านการเกิดริ้วรอย
ใช้โบท็อกซ์และสารเติมเต็มฟิลเลอร์แต่พอประมาณ การใช้สารเติมเต็มพวกนี้บนผิวหน้ามากเกินไปจะทำให้ผิวหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ และเผยความลับว่ามีริ้วรอยเกิดขึ้นแล้ว พิจารณาการใช้เลเซอร์ที่มีความเข้มแสงมากขึ้น แฟรกชันแนล เลเซอร์ เน้นการแก้ไขริ้วรอยที่เป็นร่องลึก
หน้าเนียนใส วิธีทําให้หน้าเนียน
ผิวหน้าของคุณมีปัญหากวนใจหรือไม่ วิธีทําให้หน้าเนียน ไม่ยากเลยที่ผิวของคุณจะดูดีได้ด้วยวิธีง่ายๆ ลองทำตามวิธีข้างล่างนี้ดู คุณจะมีผิวใส เรียบเนียนได้อย่างที่คุณปรารถนาเลยค่ะ
วิธีทําให้หน้าเนียน 1
วิธีทําให้หน้าเนียน เริ่มด้วยการล้างหน้าทั้งเช้า และเย็นเป็นประจำ ความสม่ำเสมอนั้นสำคัญมากที่ทำให้ผิวคุณมีสุขภาพดี และมั่นใจว่าต้องล้างหน้าทั้งเช้า และเย็น
- ล้างหน้าด้วยครีมที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า หลีกเลี่ยงการขัดผิวแรงๆ หรือใช้ผ้า หรือฟองน้ำหยาบๆ เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว และเป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอย
- ใช้โทนเนอร์ (เป็นทางเลือก) ถ้าผิวแห้งสามารถข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย ควรใช้โทนเนอร์ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และเลือกโทนเนอร์ให้เหมาะกับสภาพผิว โทนเนอร์ช่วยให้ผิวกระชับ และชะล้างสิ่งสกปรกตามรูขุมขนอีกด้วย
- ครีมบำรุง ครีมหน้าเด้ง ถ้าคุณเป็นคนผิวมัน ให้ใช้ครีมที่เข้มข้นในตอนกลางคืน และใช้ครีมสูตรบางเบา หรือเจลในตอนกลางวัน และครีมบำรุงจำเป็นทุกครั้งที่คุณล้างหน้า โกนหนวด หรือต้องการบำรุงผิว
- ล้างเครื่องสำอางทุกคืน อาจจะยากสำหรับวันที่คุณเหนื่อยล้า แต่ผลลัพธ์มันคุ้มค่ามาก โดยอาจเพียงใช้กระดาษเปียกเช็ดเครื่องสำอางก็ได้ เพราะไม่ว่าจะเหนื่อยมาแค่ไหนก็ควรล้างหน้าก่อนนอนให้เป็นนิสัย
วิธีทําให้หน้าเนียน 2
การรักษาสิว พยายามรักษาสิวให้หาย โดยใช้
- กรดซาลิไซลิค หรือโทนเนอร์ กรดซาลิไซลิคช่วยกำจัดสิ่งสกปรกได้รวดเร็ว แม้กระทั่งสิว และยังช่วยป้องกันการเกิดสิวใหม่ ควรใช้ทุกวัน
- ครีมเบนซอล เพอรอคไซด์ ถ้าคุณเป็นสิวรุนแรง คุณควรทาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเบนซอล เพอรอคไซด์ ให้ทั่วหน้า โดยเฉพาะตอนกลางคืน
- พบแพทย์ผิวหนัง ใช้ยารักษาสิวที่มีส่วนผสมของ แอคคูเทน และเรติน เอ แต่ควรจะอยู่ในความดูแลของแพทย์
- มาส์คหน้า หรือขัดผิว ช่วยกำจัดสิ่งสกปรกบนผิวคุณได้ การมาส์คหน้าควรทำสัปดาห์ละครั้ง หรือซื้อผลิตภัณฑ์ขัดหน้ามาทำเองที่บ้านก็ได้
วิธีทําให้หน้าเนียน 3
อย่าแกะสิว ไม่ควรแกะสิว เพราะการแกะสิวอาจก่อให้เกิด
- แกะสิวอาจทำให้เกิดการอักเสบทั้งผิวหนังชั้นในและชั้นนอก อาจใช้เวลานานในรักษารอยให้หาย
- แกะสิวอาจทำให้เกิดรอยแผล สิวเป็นชั่วคราว แต่รอยแผลเป็นตลอดไป ถ้าต้องการให้ผิวคุณเรียบเนียน อย่าแกะสิวเด็ดขาด
- อย่าใช้มือสัมผัสหน้า เพราะ น้ำมัน และสิ่งสกปรกจากมืออาจไปอยู่ที่หน้า และก่อให้เกิดการอุดตันได้ง่าย พยายามอย่าให้มือสัมผัสหน้า เพียงเท่านี้ก็ช่วยแก้นิสัยแกะสิวได้อีกด้วย
วิธีทําให้หน้าเนียน 4
ให้ใช้เครื่องสำอางและแปรงที่สะอาด และใหม่เสมอ เครื่องสำอาง ก็เหมือนอาหาร เป็นแหล่งรวมแบคทีเรีย และสิ่งสกปรก ถ้าคุณใช้แป้ง บลัชออน ที่ทาตา และมาสคาร่าเกินกว่า 6 เดือน ควรจะทิ้งและซื้อใหม่ได้แล้ว
ข้อยกเว้น แปรง สามารถทำความสะอาดได้ ไม่ต้องทิ้ง โดยใช้น้ำยาฆ่าแบคทีเรียล้างแปรง ซึ่งมีขายอยู่ตามร้านขายยา เพียงเดือนละครั้ง หลังจากนั้นผึ่งแดดให้แห้งสนิท
วิธีทําให้ หน้าเนียนใส 5
ดื่มน้ำมากๆ ควรดื่มวันละ 6-8 แก้วต่อวัน คุณจะเห็นถึงความแตกต่าง เพราะน้ำช่วยชำระล้างของเสียออกจากร่างกาย
- ผู้หญิง ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2.2 ลิตร หรือ 9 แก้ว ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องการดื่มน้ำ คุณควรตัดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลออกจากการดื่มน้ำ เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ
- ผู้ชาย ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 3 ลิตร หรือ 13 แก้ว
- เมื่อคุณปัสสาวะ แล้วมีสีใส สะอาด แสดงว่าร่างกายคุณโอเค แต่ถ้าปัสสาวะมีสีเหลือง คุณควรดื่มน้ำให้มากขึ้น
วิธีทําให้ หน้าเนียนใส 6
นอนหลับให้เพียงพอ ขณะนอนหลับ อาจจะมีสิ่งสกปรก หรือน้ำมันเกิดขึ้นบนหน้า ดังนั้นควรทำตามด้านล่าง เพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดกับผิวหน้า
- เปลี่ยนปลอกหมอนอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ปลอกหมอนเป็นที่สะสม เชื้อโรค น้ำลาย อาจทำให้ผิวหน้าของคุณสกปรก การซักปลอกหมอนเป็นประจำเป็นทางออกที่ดีที่สุด
- มัดผมไว้ข้างหลัง พยายามอย่าให้ผมปรกหน้าขณะหลับ ควรมัดไว้ด้านหลัง วิธีนี้จะทำให้หน้าคุณไม่สัมผัสสิ่งสกปรกขณะหลับ
- ให้ใบหน้าได้พักผ่อน การอดนอนและความเครียดส่งผลร้ายต่อผิว ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอทุกคืนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง
วิธีทําให้ หน้าเนียนใส 7
ทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายเป็นประจำ อาหารที่ควรทานได้แก่ ผัก ผลไม้ และธัญพืช จะช่วยร่างกาย และผิวมีสุขภาพดี การออกกำลังกายช่วยลดความเครียด เพิ่มการไหลเวียนโลหิต และทำให้หลับง่ายในตอนกลางคืน
- พยายามทานอาหารที่ให้พลังงานเหมาะสม อาหารจำพวกน้ำตาล และคาร์โบไฮเดรต ก่อให้เกิดสิวมากกว่าการกินโปรตีน ผัก และผลไม้ การกินผัก ผลไม้ เช่น บีทรูท มะเขือเทศ บรอคโคลี โปรตีน เช่น เนื้อสีขาว ปลา ถั่ว และธัญพืช เช่น เมล็ดควินหวา ข้าวกล้อง บัควีท การทานอาหารที่มีประโยชน์ย่อมส่งผลให้ผิวของคุณดีขึ้น
- อาหารที่เต็มไปด้วยไขมัน หรือฮอร์โมน ทำให้ผิวแย่ลง เช่น วัว เป็นสัตว์ที่มีฮอร์โมนสูง เพื่อใช้ในการผลิตน้ำนม แต่ไม่ได้หมายความว่าให้คุณต้องงดการดื่มนม แต่ไม่ควรทานผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมมากเกินไป
- วิ่ง เดิน ว่ายน้ำ ออกกำลังกายอะไรก็ได้ที่เหมาะกับคุณ การออกกำลังกายช่วยลดความเครียดซึ่งความเครียดก่อให้เกิดสิว การที่เราจะมีผิวเรียบเนียนได้นั้น การออกกำลังกายในยิม วิ่งสายพาน ว่ายน้ำ ก็ช่วยได้
- ดื่มชาเขียว ชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระ และสารที่ช่วยยับยั้งการเกิดสิว และระบบขับถ่าย (ซึ่งสัมพันธ์กับการเกิดสิว) ให้ดื่มชาเขียววันละ 2-3 แก้ว เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
หลังจากที่รู้กันไปแล้วถึงเคล็ดลับดูแลผิว และ 10 อันดับ ครีมหน้าเด้ง กันไปแล้วก็อย่าลืมไปหาซื้อหรือลองทำกันนะคะ โดยควรทาและดูแลผิวของเราอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำอย่างต่อเนื่อ ยิ่งเราเริ่มต้นเร็วยิ่งดี เพราจะช่วยบำรุงผิวหน้าให้ดีขึ้น แลดูอ่อนใสไปอีกยาวนานคะ
อ้างอิงจาก
How to select anti-aging skin care products: https://www.aad.org/public/everyday-care/skin-care-secrets/anti-aging/selecting-anti-aging-products
How to Choose Anti‐Aging Skin Care Products: https://www.wikihow.health/Choose-Anti%E2%80%90Aging-Skin-Care-Products
11 ways to reduce premature skin aging: https://www.aad.org/public/everyday-care/skin-care-secrets/anti-aging/reduce-premature-aging-skin
10 Skin Tips to Slow the Signs of Aging: https://www.webmd.com/beauty/features/wrinkles-skin