ดีท็อกซ์คืออะไร ? มาทำความรู้จัก พร้อมเปลี่ยนคุณให้สุขภาพดีกว่าที่เคย

1901
ดีท็อกซ์คืออะไร

ดีท็อกซ์คืออะไร ? มาทำความรู้จัก พร้อมเปลี่ยนคุณให้สุขภาพดีกว่าที่เคย

สำหรับการชะล้างสารพิษออกจากร่างกาย หรือที่เรียกกันว่า ดีท็อกซ์ (Detox) นั้น เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่ฮิตจนหลายๆ คนต้องหันมาลองทำกันเลยทีเดียวนะคะ โดยเฉพาะบรรดาสาวๆ ที่รักหุ่นทั้งหลายต่างก็หันมาตามเทรนด์กับเขาเหมือนกัน แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่อยากลองทำแต่ยังไม่กล้าทำ เพราะไม่ทราบว่าการชะล้างสารพิษออกจากร่างกายนี้จะได้ผลหรือไม่ ทำแล้วจะดีอย่างไร วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับการล้างสารพิษหรือการ ดีท็อกซ์คืออะไร พร้อมเคล็ดลับเปลี่ยนคุณให้เป็นคนใหม่และมีสุขภาพดีกว่าที่เคย


ดีท็อกซ์คืออะไร

การล้างสารพิษหรือดีท็อกซ์คืออะไร?

การล้างสารพิษหรือการทำดีท็อกซ์นั้นมีอยู่ด้วยกันหลากหลายวิธีการ โดยเป็นการทำให้ลำไส้ของเราสะอาด ทำให้สิ่งสกปรก สารพิษตกค้าง หรือสารเคมีต่างๆ รวมทั้งคราบไขมันที่ติดมากับอาหารที่เรารับประทานเข้าไปในแต่ละวันจนเข้าไปสะสมอยู่ในร่างกายของเราหลุดออกมาพร้อมกับอุจจาระ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เป็นการทำความสะอาดภายในของร่างกายโดยวิธีการทางธรรมชาตินั่นเองค่ะ โดยเฉพาะใครที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ล่ะก็

วิธีการนี้เรียกว่าดีมากๆ เลยทีเดียวนะคะ เพราะเมื่อไขมันต่างๆ หลุดติดออกมากับอุจจาระแล้ว ก็จะทำให้ร่างกายเรารู้สึกโล่งสะอาด และหน้าท้องแบนราบ ไม่อึดอัดกับเจ้าไขมันที่มาอาศัยอยู่ภายในหน้าท้องของเรานั่นเองค่ะ


ดีท็อกซ์คืออะไร

การล้างสารพิษหรือดีท็อกซ์มีประโยชน์อย่างไรบ้าง?

1.ประโยชน์ดีท็อกซ์ ทำให้ร่างกายสามารถปรับความสมดุลให้การขับถ่ายเป็นเวลาและเป็นปกติ

2.ทำให้ท้องไม่ผูก ไม่เสี่ยงต่อโรคในลำไส้ หรือโรคริดสีดวงทวาร

3.ทำให้ลำไส้สะอาด ไม่มีสารพิษ สารเคมี หรือคราบไขมันเกาะติดอยู่ภายในร่างกาย

4.ดีต่อผิวพรรณ ทำให้ผิวสวยขึ้น ผิวหน้าแห้งกร้านกลับมาดูขาวผ่อง สดใส แถมไม่มีริ้วรอยแห่งวัยอีกด้วย ทำให้หน้าไม่แก่ เหมือนได้ย้อนวัย

5.ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ไม่อ่อนล้าหรืออิดโรย

6.ไม่รู้สึกอึดอัด หรือแน่นบริเวณหน้าท้อง และทำให้หน้าท้องแบนราบปราศจากพุงและไขมัน

7.ทำให้ไม่รู้สึกหงุดหงิดง่าย หรืออารมณ์แปรปรวนบ่อยๆ

8.ทำให้อาการภูมิแพ้ หรือหืดหอบดีขึ้นได้

9.ช่วยยับยั้งและป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็งต่างๆ

10.ทำให้ระบบการเผาผลาญของร่างกายดีขึ้น สามารถย่อยหรือสลายไขมันได้เร็วกว่าปกติ


ดีท็อกซ์คืออะไร

4 สิ่งที่ควรทำกับการ Detox ตัวเองจากพฤติกรรมการกิน

การ Detox หรือการล้างพิษ จัดได้ว่าเป็นศาสตร์ที่แตกแขนงออกไปได้อย่างหลากหลายวิธี ตามแต่สำนักนั้นๆ ว่าใช้หลักการใดเป็นตัวช่วยล้างสารพิษในร่างกาย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการล้างพิษมักจะเป็นวิธีที่ควรทำจากผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เท่านั้น เนื่องจากบางวิธีเกิดจากความเชื่อที่ผิดๆ ทำให้การล้างพิษกลายเป็นโทษต่อร่างกายมากกว่าที่จะให้ผลดี ใครที่กำลังหลงเชื่อสูตรดีท็อกซ์ที่ดูเกินจริง ลองหันมาใช้ทางเลือกการดูแลตัวเองจาก 4 พฤติกรรมที่น่าสนใจต่อไปนี้ ที่จะเป็นตัวช่วยล้างสารพิษในร่างกายของเราได้ทุกวันแบบปลอดภัยหายห่วงอย่างแน่นอนค่ะ


1.ลดโซเดียมและอาหารที่มีรสเค็มจัด

ดีท็อกซ์คืออะไร

การ Detox ตัวเอง อาหารในท้องตลาดทุกวันนี้มักจัดหนักกับรสชาติจนแทบจะทำให้เราติดรสความอร่อยกลมกล่อมที่เน้นความเค็มเข้ามาเป็นตัวเด่น บวกกับความหวานจนทำให้คนสมัยนี้เจ็บป่วยได้ง่าย อีกทั้งเครื่องปรุงส่วนใหญ่ ไม่กี่หยดก็มีปริมาณโซเดียมสูงจนน่าตกใจ

เชื่อว่าใครกินอาหารตามสั่งหรืออาหารสำเร็จรูปเป็นประจำ จะต้องได้รับโซเดียมเกินมาตรฐานกันอย่างแน่นอน เพื่อไม่ให้ไตต้องทำงานหนักลองหันมารับประทานอาหารรสจืดลงมาหน่อย หรือหากมีเวลาก็ขอแนะนำให้หันมาเลือกทำอาหารด้วยตัวเองจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าอย่างแน่นอน


2.หลีกเลี่ยงคาร์โบไฮเดรตก่อนนอน

ดีท็อกซ์คืออะไร

ช่วงเวลานอน ก็คือช่วงเวลาที่ร่างกายต้องการพักผ่อน อวัยวะต่างๆ การ Detox ตัวเอง ก็เริ่มจะหยุดการทำหน้าที่ของมันลงจากที่ต้องทำงานหนักมาทั้งวัน การกินอาหารที่มีแป้งเป็นส่วนประกอบในช่วงเวลาก่อนนอนแบบจัดหนัก โดยเฉพาะแป้งที่อยู่ในรูปคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว

เพราะจะทำให้เกิดการตกค้างของอาหาร อีกทั้งแทนที่กระเพาะจะได้พักต้องหันมาย่อยอาหารกันต่อไปอีกตลอดทั้งคืน ดังนั้นสาวๆ ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทแป้ง ลดปริมาณลงให้เหลือแต่เพียงน้อย และควรกินก่อนนอนประมาณ 4-6 ชั่วโมง


3.ดื่มชาแทนกาแฟในตอนเช้า

ดีท็อกซ์คืออะไร

ชาจัดได้ว่าเป็นสมุนไพรมากสรรพคุณ โดดเด่นด้วยคุณค่าที่สามารถต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นระบบการทำงานของลำไส้ เข้าไปกำจัดไขมันที่อุดตันตามเส้นเลือด อีกทั้งช่วยทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้สะดวก การดื่มชาในตอนเช้าทดแทนกาแฟ จะช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและสะอาดขึ้น แถมคาเฟอีนจากเครื่องดื่มชนิดนี้ก็มีให้ไม่ต่างจากกาแฟเช่นเดียวกัน


4.กินอาหารให้ช้าลงกว่าเดิม

ดีท็อกซ์คืออะไร

ความเร่งรีบทำให้เรากินอาหารเร็วขึ้น การเคี้ยวอย่างรวดเร็วกลายเป็นนิสัยเคยชินที่ไม่ค่อยดีกับระบบการย่อยเท่าใดนัก ยิ่งใครที่ยัดอาหารแบบมูมมามด้วยแล้ว จึงไม่แปลกที่จะรู้สึกแน่นท้อง อาหารไม่ย่อย มีลมในกระเพาะมาก แถมยังทำให้ระบบการทำงานของร่างกายหนักมากขึ้น

ที่สำคัญการกินเร็วยังทำให้เรากินอาหารเกินสัดส่วนที่ร่างกายต้องการ เป็นการเพิ่มน้ำหนักมากขึ้นแบบไม่รู้ตัวอีกด้วย การเคี้ยวอาหารแบบช้าๆ จึงช่วยให้ระบบย่อยอาหารไม่ต้องทำงานหนัก ทำให้เรากินน้อยลง จนรู้สึกได้ว่าการเคี้ยวอาหารให้ละเอียดมันเบาท้องได้อย่างมากมายเลยทีเดียว


ดีท็อกซ์คืออะไร

12 เคล็ดลับเปลี่ยนเป็นคนใหม่ สุขภาพดีสวยสดใสตลอด 12 เดือน

ดีท็อกซ์อย่างเดียวคงไม่ช่วยให้สุขภาพดีขึ้นแบบทันตาเห็น หลายคนใช้ชีวิตในแต่ละวันไปอย่างรีบร้อนและมองข้ามบางสิ่งบางอย่างในชีวิตไป พอหมดวันทำงานกลับเข้ามาที่บ้าน ได้มีเวลาอยู่กับตัวเองคนเดียวแล้วก็คิดว่า อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น อยากดูแลสุขภาพของตัวเองอีกนิด ให้ตัวเองดูดีขึ้นมาอีกหน่อย แต่ยังติดที่ไม่มีเวลาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอสักที หรืออยากจะทำหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อเป็นการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น แต่จะทำอะไรก่อนดี หรือทำพร้อมกันให้หมดทีเดียวเลย ในที่สุดก็เกิดความสับสน เบื่อหน่าย และล้มเลิกกลางคันไป มาค่ะ มาอ่านบทความนี้ที่เราได้จัดระเบียบสิ่งที่คุณต้องทำถ้าคุณอยากให้ตัวเองสุขภาพดีขึ้น โดยที่ได้แบ่งให้คุณได้ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงตัวเองไปทีละน้อยในแต่ละเดือนค่ะ


เดือนมกราคม

เปลี่ยนเป็นคนใหม่ เดือนนี้ตั้งเป้าหมายเอาไว้เลยว่าจะต้องดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอในแต่ละวัน โดยปกติคนเราต้องการน้ำสะอาด 2 ลิตรต่อวัน หรือประมาณ 8 แก้ว แต่เชื่อว่าหลายคนดื่มไม่ค่อยจะครบกันเท่าไหร่ จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ได้บอกเอาไว้ว่า การดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อร่างกายนั้นจะช่วยในการลดน้ำหนัก เพราะน้ำจะทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่มทำให้เรากินอย่างอื่นน้อยลง ทั้งยังช่วยในการกระบวนการกำจัดสารพิษต่างๆ ของร่างกายให้เป็นไปตามปกติ อีกทั้งดื่มน้ำเปล่าช่วยให้ผิวใสและลดสิวได้ด้วย แต่ก็ไม่ใช่ว่าดื่มน้ำเข้าไปทีละลิตรเลยนะคะ ควรดื่มให้สม่ำเสมอตลอดทั้งวัน ใช้ตามสูตรนี้ก็ได้ค่ะ คือ ดื่ม 1 แก้วหลังตื่นนอน 1 แก้วก่อนและหลังอาหารสามมื้อ และ 1 แก้วก่อนนอนค่ะ เท่านี้คุณก็ดื่มน้ำได้ครบและเพียงพอต่อร่างกายแล้วค่ะ


เดือนกุมภาพันธ์

เดือนนี้เรามากินอาหารเช้าให้ครบทุกวันกันดีกว่า อาหารเช้าใครก็รู้ว่าเป็นมื้อที่สำคัญต่อร่างกาย แต่ก็มีน้อยคนที่จะให้ความสำคัญกับมัน เพราะเร่งรีบไปทำงานจนไม่มีเวลามานั่งกินอาหารเช้า ส่วนใหญ่เลยยกยอดรวมไปไว้พร้อมกับอาหารเที่ยง ซึ่งการปล่อยให้ร่างกายของเราหิวในตอนเช้านี้ จะยิ่งทำให้มื้อเที่ยงของเราหนักขึ้นไปอีกได้ เราจะกินมากขึ้นในมื้อถัดไป ทำให้น้ำหนักขึ้นได้ง่าย และทำลายระบบย่อยอาหารของร่างกาย สำหรับใครที่กินอาหารเช้าเป็นประจำในทุกวัน มื้อต่อไปก็จะกินอาหารในปริมาณปกติ และจากการศึกษาพบว่าคนที่กินอาหารเช้าจะสามารถลดน้ำหนักได้ดีกว่าคนที่ไม่กินอาหารเช้านั่นเอง


เดือนมีนาคม

เข้าเดือนที่ 3 แล้ว เราอยากแนะนำให้คุณเพิ่มเวลาการนอนให้เพียงพอประมาณ 7 – 8 ชั่วโมงในแต่ละวัน เพราะงานวิจัยบอกว่า การนอนอย่างเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้ดี  เช่น ลดอาการเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ โรคเบาหวาน และไม่ป่วยเป็นหวัดง่าย เพราะเวลานอนคือ เวลาที่ร่างกายของเราจะทำการซ่อมแซมปรับปรุงส่วนที่ทำงานมาอย่างหนักมาตลอดทั้งวัน เมื่อตื่นมาก็พร้อมจะใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ แต่สำหรับคนที่นอนไม่เพียงพอ ก็เหมือนเครื่องยนต์ที่ไม่ได้พัก เปิดใช้งานตลอดเวลาจนในที่สุดก็เกินกำลังจะรับไหว เสียหายหนักไปจนต้องเข้าอู่ซ่อม ดังนั้นจัดเวลานอนให้เพียงพอในแต่ละคืนเพื่อจะได้ห่างไกลจากอาการป่วยและโรงพยาบาลกันดีกว่า


เดือนเมษายน

เข้าสู่เดือนที่ร้อนที่สุดของไทยแล้ว ชวนคุณมาโฟกัสกันที่อาหารการกินค่ะ ให้คุณบันทึกสิ่งที่คุณกินในแต่ละมื้อเอาไว้ เดี๋ยวนี้สะดวกสบายอย่างมาก เพราะเราต่างก็มีสมาร์ทโฟนและแอพพลิเคชั่นที่จะช่วยให้คุณบันทึกข้อมูลเหล่านี้และบางแอพพลิเคชั่นยังสามารถคำนวณจำนวนแคลลอรี่ในแต่ละมื้อ พร้อมกับวิเคราะห์ สรุปผล ประเมินพฤติกรรมการกินของเราออกมาได้ ในแต่ละสัปดาห์เราก็มาดูกันว่าเรากินอะไรที่ไม่เป็นมิตรต่อร่างกายเข้าไปบ้าง สัปดาห์ต่อไปจะได้หักห้ามใจตัวเองได้ค่ะ โดยมีงานวิจัยพบว่า คนที่ทำการบันทึกพฤติกรรมการกินของตัวเองเป็นประจำจะทำให้น้ำหนักลดลงเป็นสองเท่าของคนที่ไม่ได้จดบันทึก ว่าแล้วก็เตรียมโหลดแอพพลิเคชั่นมาติดเครื่องกันไว้เลยนะคะ


เดือนพฤษภาคม

เดือนนี้เรามาเริ่มออกกำลังกายด้วยการเดินกันเถอะ โดยเป็นการเดินเล่นไปเรื่อยๆ ติดต่อกันนาน 30 นาที ขอแค่สัปดาห์ละ 5 วันค่ะ โดยจะเลือกเดินเล่นในห้างสรรพสินค้าก็ได้ เดินในสวนสาธารณะก็ได้เช่นกัน ถ้าไม่เวลาจริงๆ ก็ให้แบ่งเดินครั้งละ 10 – 15 นาทีต่อครั้ง แต่ให้ทำเป็นสองหรือสามครั้งต่อวันแทน การเดินโดยใช้เวลาไม่นานแบบนี้เป็นการเริ่มการออกกำลังกายที่ไม่ยากและไม่ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้ามากเกินไปอีกด้วย พอผ่านไปหนึ่งเดือนแล้วเราจะรู้สึกคุ้นเคยกับการออกกำลังกายมากยิ่งขึ้นเลยล่ะ


เดือนมิถุนายน

มาถึงครึ่งปีกันแล้ว เดือนนี้มาเริ่มกินผักและผลไม้อย่างเป็นประจำทุกวันกันดีกว่านะคะ อย่างที่รู้กันดีว่าผักและผลไม้ให้พลังงานต่ำ มีน้ำตาลน้อย และไม่มีไขมันมาทำให้เรากังวล ยกเว้นผลไม้บางชนิด เช่น ทุเรียน ที่มีทั้งน้ำตาลและไขมันสูงลิ่ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าหักดิบกินแต่สลัดผัก สลัดผลไม้ เพียงแค่ลองเพิ่มผักในมื้ออาหารให้มากขึ้น ทานผลไม้แทนขนมกรุบกรอบ อย่างที่เคยได้ยินเพลงในโฆษณาว่าผักครึ่งหนึ่ง อย่างอื่นครึ่งหนึ่งนั่นเอง การกินผักและผลไม้เป็นประจำจะทำให้ร่างกายได้รับวิตามิน เส้นใยอาหารที่ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร นอกจากนั้นยังลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหัว โรคเบาหวานและมะเร็งบางชนิดได้อีกด้วย


เดือนกรกฎาคม

เราจะชวนคุณมาลดขนาดของจานอาหารให้เล็กลงค่ะ โดยเฉพาะในมื้อเย็น เพราะกินเสร็จแล้วเราก็พักผ่อนต่อ ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรที่ใช้พลังงานมาก ดังนั้นถ้าเราจัดเต็มมื้อใหญ่ในตอนเย็นของวัน พลังงานที่ได้รับไปแล้วไม่ได้ถูกใช้ก็จะสะสมกลายเป็นไขมันอยู่ในร่างกายของเรานั่นเองค่ะ และจากการศึกษาก็พบว่าเมื่อเราเปลี่ยนขนาดของจานอาหารให้เล็กลงก็จะทำให้เรากินน้อยลงไปด้วย มีประโยชน์ในการลดและช่วยควบคุมน้ำหนักอีกทางหนึ่งได้อย่างแน่นอน


เดือนสิงหาคม

เดือนนี้ถึงยังจะไม่ใช่เทศกาลกินเจแต่เราก็อยากให้คุณลองมาลดการกินเนื้อแดงลงบ้าง โดยลดได้ด้วยการกินเนื้อแดงเพียงแค่มื้อหรือสองมื้อในแต่ละวัน แทนที่จะกินทั้งสามมื้อเหมือนแต่ก่อน การลดเนื้อแดงลงก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งบางชนิดและโรคหัวใจได้ด้วย


เดือนกันยายน

หลายเดือนที่ผ่านมาเราดูแลในเรื่องของอาหารการกินกันไปแล้ว เดือนนี้เรากลับมาดูแลในเรื่องการออกกำลังกายกันบ้าง แต่ให้ไปออกกำลังกายคนเดียวก็ดูจะเหงาแย่ ถ้าอย่างงั้นลองมองหาเพื่อนสักคนไปออกกำลังกายพร้อมกันดูค่ะ เพราะการออกกำลังกายพร้อมกับคนอื่นๆ นอกจากบรรยากาศจะคึกคัก ทำให้เราผ่อนคลายแล้ว ยังช่วยให้เรารู้สึกสนุก อยากกลับมาออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องนั่นเอง


เดือนตุลาคม

เรากลับมาใส่ใจเรื่องอาหารการกินกันอีกครั้งในเดือนนี้ แต่ไม่ใช่ให้ลดหรือเพิ่มอาหารชนิดไหนแล้วนะคะ แต่เป็นการให้เราตั้งสติในการกิน เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืนนั่นเอง การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืนนั้นจะช่วยให้กระเพาะอาหารของเราทำงานได้ง่ายขึ้น รวมถึงทำให้เราอิ่มเร็วขึ้นด้วย เพราะเมื่อเริ่มมื้ออาหาร สมองของเราจะใช้เวลาประมาณ 20 นาทีในการส่งสัญญาณว่าร่างกายควรอิ่มได้แล้ว ดังนั้นใครที่กินข้าวเร็วมาก ก็จะทำให้กินอาหารมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ เป็นสาเหตุหนึ่งของน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น


เดือนพฤศจิกายน

ใกล้จะปลายปีเข้ามาแล้ว การดูแลสุขภาพของเราตลอด 10 เดือนที่ผ่านมาของเรา บางคนอาจจะเริ่มเหนื่อยกันบ้างแล้ว เดือนนี้เราเลยสบายๆ กันบ้างดีกว่า แค่ถึงเวลาเลิกงานแล้วให้เราปิดโทรศัพท์มือถือ ไม่เช็คอีเมลล์ หรือโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ เพราะจากผลการศึกษาพบว่า การที่เราอยู่กับเทคโนโลยีและใช้มันแทบจะอยู่ตลอดเวลานั้นทำให้เราเกิดภาวะความเครียดสะสมในร่างกาย นำไปสู่ภาวะซึมเศร้าและโรคนอนไม่หลับได้ค่ะ ดังนั้นเลิกงานแล้วก็โยนเทคโนโลยีทิ้งไปเพื่อปล่อยให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างแท้จริง


เดือนธันวาคม

เดือนสุดท้ายของเปลี่ยนเป็นคนใหม่ เข้าสู่เดือนสุดท้ายกันแล้ว เดือนนี้เรากลับมาที่เรื่องของอาหารการกินอีกครั้ง โดยตลอดทั้งเดือนนี้อยากให้คุณกินอาหารให้ครบทั้ง 3 มื้อ ไม่ขาดมื้อใดมื้อหนึ่งไป หลายคนข้ามมื้อเช้าไปเพราะเร่งรีบไปทำงาน หรือบางคนยอมอดมื้อเที่ยงเพราะมีปาร์ตี้หลังเลิกงานรออยู่ การไม่กินอาหารในมื้อใดมื้อหนึ่งจะทำให้เกิดอาการหิวมากกว่าปกติ ดังนั้นมื้อต่อไปก็จะกินมากกว่าเดิม จำนวนแคลลอรี่ที่ร่างกายได้รับก็จะมหาศาล อีกทั้งทำให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายของร่างกายทำงานไม่ปกติ ส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวอีกด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสาวๆ สำหรับเคล็ดลับใน การปรับเปลี่ยนคุณให้เป็นคนใหม่ จะเห็นได้ว่าแต่ละเคล็ดลับนั้นทำได้แสนง่าย เพียงปรับพฤติกรรมการกิน การดื่มน้ำและการออกกำลังกาย รวมถึงการพักผ่อนให้เพียงพอและการปลดปล่อยตัวเองให้อยู่อย่างสบายๆ ไม่คิดกังวลในการตามติดเทคโนโลยีสื่อสารต่างๆ เมื่อเราตัดความว้าวุ่นออกจากวงจรชีวิตได้ คุณภาพชีวิตของเราก็จะสดใสและมีสุขภาพที่ดีตลอด 12 เดือนแน่นอนค่ะ


เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับการล้างสารพิษหรือทำดีท็อกซ์ และเคล็ดลับสุขภาพที่เราแนะนำกันไป เรียกว่ามีประโยชน์แก่ร่างกายของเราอย่างมากเลยทีเดียวนะคะ โดยเฉพาะคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ ซึ่งไม่เพียงแต่ลดความอ้วนเท่านั้นนะคะ วิธีการนี้ยังดีต่อสุขภาพร่างกายของเราเป็นอย่างมาก เรียกว่าเป็นการรีเฟรชร่างกายใหม่ให้สดชื่นอยู่ตลอดเวลา ลองหันมาดีท็อกซ์กันดูนะคะ เพื่อสุขภาพและรูปร่างที่ดี


อ้างอิงจาก

Full Body Detox: 9 Ways to Rejuvenate Your Body: https://www.healthline.com/nutrition/how-to-detox-your-body

What is Detox and How do you know if your Body needs it: https://www.doconline.com/blog/what-is-detox-and-how-do-you-know-if-your-body-needs-it

7 Effective Tips To Naturally Detox Your Body: https://food.ndtv.com/food-drinks/how-to-naturally-detox-your-body-7-effective-tips-1886268

12 Healthy Daily Habits to Start Today: https://kaynutrition.com/healthy-daily-habits/

โปรดรอสักครู่ กำลังโหลดความคิดเห็นของเพื่อน ๆ และเพื่อเขียนความคิดเห็นของคุณ