อาหารเสริม 4 ชนิดสำหรับผู้หญิง พิชิตสุขภาพดีอย่างครบวงจร
อาหารเสริมสำหรับผู้หญิง ทุกวันนี้ใครๆ ต่างก็พากันกินอาหารเสริมและวิตามินกัน ไม่ว่าจะเพศไหน อายุเท่าไหร่ก็ดูเหมือนจะมีทั้งอาหารเสริมและวิตามินมาให้เลือกบริโภคทุกเพศทุกวัย
จึงไม่แปลกค่ะถ้าเปิดดูตามโซเชียลมีเดียต่างๆ แล้วจะเห็นบรรดาเน็ตไอดอล ดาราเซเลบผู้มีชื่อเสียงทั้งหลายพากันลงโฆษณาอาหารเสริม หรือบางคนถึงขั้นเป็นผู้ผลิตเองเลย เพราะใครๆ ก็ต้องการให้ตัวเองสุขภาพแข็งแรงออกมาดูดีอ่อนกว่าวัย หรือดูสมวัยไม่ล้ำหน้าล้ำวัยไป
โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงอย่างเราๆ แล้ว ใครว่าอะไรดี ใครว่าอะไรเจ๋งเราก็อดไม่ได้ที่จะสนใจหามากินเพื่อบำรุงร่างกายของเรา ซึ่งก็มีทั้งข่าวทั้งคำเตือนออกมาว่าควรศึกษาข้อมูลหรือปรึกษาแพทย์ เภสัชกรก่อนการรับประทาน แล้วอาหารเสริมจริงๆ แล้วเราจำเป็นต้องกินหรือเปล่าถ้าเราไม่ได้ป่วย
ถ้ากินควรเลือกกินอะไรบ้าง มันอันตรายขนาดที่เป็นข่าวกันอยู่หรือเปล่า เราเลยนำข้อมูลของอาหารเสริมที่เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงโดยเฉพาะมาฝากค่ะ หวังให้เป็นหนึ่งในข้อมูลที่จะช่วยให้คุณเลือกบริโภคอาหารเสริมได้อย่างปลอดภัยค่ะ
1.แคลเซียมอาหารเสริมสำหรับผู้หญิง (Calcium)
แคลเซียมได้ยินในโฆษณาและท่องจำกันมาตั้งแต่ตอนเด็กแล้วว่าช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ถ้าเราขาดแคลเซียมก็จะทำให้เสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุน และแคลเซียมยังเป็นตัวสำคัญในการส่งกระแสประสาทอีกด้วย
แล้วทำไมถึงแนะนำให้ผู้หญิงจะต้องกินอาหารเสริมตัวนี้ด้วย ในผู้หญิงปกติเราอาจจะได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอจากอาหารและเครื่องดื่มในแต่ละวัน จนบางคนไม่ต้องกินแคลเซียมเพิ่มแล้ว
สำหรับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์นั้นนับว่าสำคัญมากทีเดียว เพราะทารกจะนำเอาแคลเซียมจากร่างกายแม่ไปสร้างกระดูกและฟันของตัวทารกเอง ดังนั้นคุณแม่จึงต้องกินแคลเซียมมากกว่าคนปกติทั่วไป
ถ้าหากขาดแคลเซียมในระหว่างตั้งครรภ์อาจทำให้ทารกคลอดออกมาไม่สมบูรณ์ได้ หรือทารกคลอดออกมาสมบูรณ์ และตัวคุณแม่ยังจะมีภาวะกระดูกเปราะหรือกระดูกพรุนเร็วกว่าคนทั่วไปนั่นเอง
โดยปกติผู้หญิงอายุระหว่าง 19 – 50 ปี ควรได้รับแคลเซียมวันละ 1,000 มิลลิกรัม แต่ไม่ใช่ว่าเราจะกินแคลเซียมเข้าไปเลยทีเดียว 1,000 มิลลิกรัม ให้คุณนึกถึงอาหารและเครื่องดื่มในแต่ละวันก่อนว่าเราได้รับแคลเซียมจากอาหารหลักของเราเพียงพอแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่ครบค่อยกินอาหารเสริมเข้าไปค่ะ
2.วิตามินดีอาหารเสริมสำหรับผู้หญิง (Vitamin D)
วิตามินดีเกี่ยวข้องกับการช่วยดูดซึมแคลเซียมของร่างกาย โดยปกติแล้วถ้าปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ มักจะให้กินแคลเซียมพร้อมๆ กับการกินวิตามินดีด้วย
นอกจากนี้ วิตามินดียังมีบทบาทในส่วนของการป้องกันการเกิดมะเร็งที่ปลายลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านมและโรคเบาหวาน สารพัดประโยชน์ขนาดนี้ สาวๆ อย่างเราก็พลาดไม่ได้เด็ดขาดแล้วค่ะ แต่อย่างที่บอกว่ามันคืออาหารเสริม ดังนั้นก็ควรรับวิตามินดีจากธรรมชาติก่อน เช่น อาจจะออกไปรับแสงอาทิตย์ยามเช้า
โดยปกติคนเราควรได้รับวิตามินดี – 3 วันละ 2,000 IUs (International Units) สำหรับฤดูหนาวในประเทศที่อยู่ในเขตหนาวที่ไม่ค่อยได้พบเจอแสงอาทิตย์ ส่วนสำหรับเขตร้อนหรือฤดูร้อนในประเทศเขตหนาวที่มีแสงอาทิตย์มากขึ้นนั้นลดลงมาอยู่ที่ 1,000 IUs ต่อวัน
3.กรดไขมันโอเมก้า – 3 อาหารเสริมสำหรับผู้หญิง (Omega – 3 Fatty Acids)
การที่ร่างกายมีระดับของไขมันดี (healthy Fats) ต่ำจะทำให้เกิดการอักเสบภายในร่างกายได้ง่า ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของโรคหัว โรคเบาหวานและมะเร็ง แต่การที่เราจะหาไขมันดีเข้าสู่ร่างกายได้ก็ช่างยากเย็น เพราะไขมันดีนี้ส่วนใหญ่แล้วจะพบในปลาทะเลน้ำลึก นอกจากนั้นเราก็เจอแต่ไขมันตัวร้ายทั้งนั้น
จึงขอแนะนำให้กินกรดไขมันโอเมก้า – 3 ซึ่งเป็นไขมันดีเข้าไปรักษาระดับของไขมันดีในร่างกายไม่ให้ต่ำ นอกจากนี้ยังเป็นอาหารเสริมบำรุงสมอง โดยกินพร้อมกับมื้ออาหารได้เลย กรดไขมันโอเมก้า – 3 จะถูกย่อยและดูดซึมไปพร้อมกับอาหารที่เรากินเข้าไป ปริมาณที่แนะนำให้บริโภคต่อวันคือ 1 – 2 กรัม หรือ 1,000 – 2,000 มิลลิกรัม
และเมื่อกินเข้าไปแล้วอาจมีอาการเรอออกมาเป็นกลิ่นคาวปลา…ก็อย่าได้ตกใจไป!
4.โปรไบโอติกส์อาหารเสริมสำหรับผู้หญิง (Probiotics)
สำหรับอาหารเสริมสำหรับผู้หญิง โปรไบโอติกส์ เป็นอาหารเสริมสุขภาพโดยเป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยบรรเทาปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น อาหารเป็นพิษ ท้องเสีย หรือช่วยลดโอกาสในการเกิดหวัดให้น้อยลงอีกด้วย
เหมือนเป็นผู้ช่วยที่คอยดูแลภายในร่างกายของเรา คอยต่อสู้กับแบคทีเรียที่จะมาก่อโรคให้เราเจ็บป่วยนั่นเองปริมาณที่แนะนำในแต่ละวันคือ ขนาด 1 แคปซูล ที่มีจำนวนโปรไบโอติกส์อยู่ที่ 10,000 ล้าน CFUs (colony-forming units) โดยกินในตอนเช้า เจ้าแบคทีเรียนี้ก็จะคอยคุ้มครองเราไปตลอดทั้งวันแล้วค่ะ
อ่านกันมาครบถ้วนแล้ว อย่างที่บอกว่าชื่อของมันคืออาหารเสริม เป็นสารอาหารที่เสริมจากอาหารมื้อหลักที่เรารับประทานเข้าไป บางคนมักเข้าใจผิด คิดว่ากินอาหารเสริมแล้วอาการป่วยต่างๆ จะดีขึ้น
ซึ่งจริงๆ แล้วอาหารเสริมนั้นเป็นการกินเข้าไปทดแทนส่วนที่ร่างกายขาดไป หรือกินเข้าไปเมื่อร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้ ดังนั้นควรกินอาหารหลักให้ครบ 5 หมู่ด้วยนะคะ ส่วนการกินอาหารเสริม
ถ้าคนไหนที่มีโรคประจำตัวแนะนำให้แจ้งเภสัชกรหรือแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการบริโภคค่ะ เพราะอาหารเสริมบางตัวอาจทำให้เกิดอาการแพ้ยาที่กินอยู่เป็นประจำ หรือเป็นสาเหตุกระตุ้นให้โรคประจำตัวกำเริบได้ ยังไงแล้วก็ต้องระมัดระวังก่อนซื้อมาทานด้วยนะคะ